เชื่อว่าทุกท่านที่ชื่นชอบการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น จะต้องไม่พลาดหมู่บ้านโบราณที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกของโลกอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเช็คอินที่จะทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆท่าน อยากที่จะมาเดินท่องเที่ยว สัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมสุดคลาสสิค และถ่ายรูปภาพสวยๆกันอย่างแน่นอนซึ่งที่นั้นก็คือ “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ”
ชิราคาวาโกะ มรดกโลก
หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามแม่น้ำโชกาวะ (Shogawa) ลักษณะของหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา และดูเหมือนว่ากันว่าจะเป็นหมู่บ้านนินจาอีกด้วย
หมู่บ้านชิราคาวาโกนั้นตั้งอยู่ที่บนหุบเขาในเขตจังหวัดกิฟูและโทยาม่า ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู จะประกอบไปด้วยบ้านเรือนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี กระจายไปในแนวเหนือ-ใต้ ตามที่ราบแคบๆที่ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ ประกอบกันถึง 16 หมู่บ้าน
แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนั้นมักนิยมมาเที่ยวกันมากๆ และเรามักจะเห็นรูปภาพที่ถ่ายสวยๆกันบ่อยๆ ก็คือ หมู่บ้านโอกิมาจิ ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านหลักและมีขนาดใหญ่ที่สุดในชิราคาวาโกะนั่นเองและนอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1995
ที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นมีศาลเจ้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งที่น่ามาเที่ยวไม่แพ้กับการเดินเล่นในหมู่บ้านเลยทีเดียว มีชื่อว่า ศาลเจ้าชิราคาวะฮะจิมัน ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโต และเป็นศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเดียวในหมู่บ้านอีกด้วย
ซึ่งความพิเศษของศาลเจ้านี้ก็คือ การที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีหอผลิตสาเกโดบุโรคุ ซึ่งเป็นสาเกที่หมักจากข้าวในหมู่บ้านแห่งนี้และในทุกๆช่วงของเดือนกันยายนถึงตุลาคม จะมีงานเทศกาลสาเกอีกด้วย และที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีวัดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งที่น่ามาเที่ยวไม่แพ้กันมีชื่อว่าวัดเมียวโอะเซนจิ
ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ทางเหนือของหมู่บ้าน ความสวยงามของวัดนี้ที่ไม่เหมือนวัดอื่นๆในญี่ปุ่นก็คือ ประตูของหอระฆังมุงหลังคาแบบกัสโชสึคุรินั่นเอง
ทำให้ที่นี่เป็นมรดกที่มีความสำคัญมากๆ นอกจากนี้ที่วัดเมียวโอะเซนจิ ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งจัดแสดงข้าวของ และเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยอดีตของชาวหมู่บ้านอีกด้วย
นอกจากที่ชิราคาวาโกะจะมีบ้านโบราณเก่าแก่ที่สวยๆงามแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้ทุกท่านได้เดินชม เที่ยวเล่นและถ่ายรูปสวยๆกันแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีบ้านอีกหลายๆ หลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ศาลเจ้า ที่พักโฮมสเตย์ และจะมีจุดที่รับนักท่องเที่ยวที่นั้นจะมีแผนที่ของหมู่บ้านให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ และนักท่องเที่ยวทุกท่านจะสามารถเดินเที่ยวตามแผนที่ที่ทางหมู่บ้านนั้นให้ได้เลย
และหากท่านใดที่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรืออยากที่จะชมวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะแบบเต็มตาตามที่ทุกท่านมักเห็นกันตามภาพโปสการ์ด หรือ รูปถ่ายวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านชิราคาโกะที่หมู่บ้านแห่งนี้มีจุดชมวิวที่จะทำให้ทุกท่านประทับใจแบบไม่รู้ลืมซึ่งก็คือจุดชมวิวของ “ปราสาทโอกิมาชิ”
ที่ปราสาทโอกิมาชิแห่งนี่ได้รับความนิยมมากสำหรับการชมวิวของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ท่านจะสามารถมองเห็นหมู่บ้าน 59 หลังคาเรือน และเหมาะมากกับการชมภาพมุมกว้างของหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นความเขียวชอุ่มของฤดูใบไม้ผลิ สีน้ำตาลแดงของฤดูใบไม้ร่วง หรือว่าในยามที่มีหิมะตกปกคลุมนั่นเอง
กัสโชสึคุริ บ้านชาวนาโบราณ
ไฮไลท์สุดสำคัญของการมาเที่ยวในชิราคาวาโกะก็คือ การได้มาเดินชมบ้านแบบ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) ซึ่งเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี
บ้านในแบบกัสโชสึคุริจะมีลักษณะพิเศษคือ เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช”ซึ่งมีความหมายแปลว่า “พนมมือ” ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน
ส่วนตัวบ้านจะมีความยาวสุดประมาณ 18 เมตร และมีความกว้างสุดประมาณ 10 เมตร ซึ่งโครงสร้างของบ้านแห่งนี้สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างต่างๆ ล้วนแต่มาจากวัสดุจากธรรมชาติล้วนๆ
ช่วงเวลาในการมาเที่ยวชิราคาวาโกะ
ที่ชิราคาวาโกะนั้นท่านสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ในทุกช่วงฤดูกาลเลย เพราะแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
“ฤดูร้อน” เดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม พอเข้าสู่ฤดูร้อนของชิราคาวาโกะ ทั่วทั้งหมู่บ้านก็จะเต็มไปด้วยนาข้าว ต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศดีๆ และยังมีช่วงการฉีดน้ำขึ้นหลังคาบ้านให้ได้เห็นอีกด้วย
“ฤดูใบไม้ผลิ” เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม เราก็จะได้เห็นความสวยงามของหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระสีชมพู แน่นอนว่า ถ่ายรูปสวยได้ทุกที่เลยทีเดียว ยิ่งมีซากุระเป็นแบ็คกราวน์ บอกเลยว่าได้รูปสวยฟินๆ กลับมาอย่างแน่นอน
“ฤดูใบไม้ร่วง” เดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน ต้นไม้ ใบไม้ต่างๆ ทั้งหมู่บ้านจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล ถือได้ว่า หมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นเป็นอีกแห่งสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยงามมากๆ อีกแห่ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
“ฤดูหนาว” เดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์ ช่วงฤดูหนาวนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหลายคนเฝ้ารอ เพราะหิมะสีขาวโพลนจะปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ให้บรรยากาศญี่ปุ่นในสมัยโบราณได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีงานเทศกาลฤดูหนาว ที่ทั่วทั้งหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน ชื่อว่า งานแสดงไฟ Shirakawago Light Up
การเดินทาง
ท่านสามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้า (Osaka) หรือ นาโกย่า (Nagoya) มาลงที่เมืองคานาซาวา (Kanazawa) แล้วต่อรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะเดินทางถึงที่หมู่บ้าน
หรืออาจจะนั่งจากนาโกย่า (Nagoya) นั่งรถไฟเข้าเมืองทาคายาม่า (Takayama) แล้วต่อรถบัส Takayama Nohi Bus Center อีกประมาณ 50 นาที ก็จะเดินทางถึงที่หมู่บ้านเช่นกัน
เรียบเรียงโดย นางสาววิภาวี กงทอง
นักศึกษาฝึกงานระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ขอบคุณภาพจาก shutterstock
ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่านอย่างมากครับ
หากชอบบทความ หรือเห็นว่าเป็นประโยชน์ สามารถกดแชร์ ให้เพื่อนๆได้อ่านต่อด้วยนะครับ
สามารถติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/greenlandholiday
หากสนใจเดินทางท่องเที่ยว หรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับทัวร์ต่างประเทศ
กรุณาติดต่อ โทร. 022949742
Line id : @greenlandtour