การหาสถ่านที่รับประทานอาหารบรรยากาศดีๆ และมีดนตรีขับกล่อม ในโอกาสพิเศษต่างๆ มักจะเป็นความประทับใจที่น่าจดจำ การล่องเรือดินเนอร์ไปกับเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสมักเป็นตัวเลือกที่หลายๆท่านให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการ
ฉลองวันเกิดบนเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส
สำหรับท่านที่ต้องการฉลองวันเกิดบนเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส ทางเรือจะมีเค้กวันเกิดให้ฟรี เพียงมีเงื่อนไขคือ
- มีวันเกิดตรงกับวันใช้บริการล่องเรือ
- มีการแจ้งขอเค้กวันเกิดล่วงหน้าในวันที่จองล่องเรือ
- นำบัตรประชาชน หรือ passport ของเจ้าของวันเกิดมาแสดง ณ จุดลงทะเบียน
เพียเท่านี้ การฉลองวันเกิดที่ไม่ธรรมดา ก็จะเป็นที่จดจำไม่รู้ลืม
รายการอาหารบนเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส
รายการอาหารสำหรับบุฟเฟต์นานาชาติที่แสนอร่อยได้ถูกจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
อาหารเรียกน้ำย่อย
- ส้มตำไทย
- ยำวุ้นเส้นทะเล
- พล่าปลาแชลมอน
สลัดบาร์และซุป
- ต้มยำกุ้ง
- ซุปเห็ดทรัฟเฟิล
มุมอาหารญี่ปุ่น
- ปลาดิบ
- ข้าวห่อสาหร่าย
- สลัดมัจฉะห่อสาหร่าย
มุมอาหารซีฟู๊ด
- กุ้งแม่น้ำ
- หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
มุมก๋วยเตี๋ยวไทย
- ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
- ผัดไทกุ้งสด
- แกงเขียวหวานไก่
- ขนมจีน
อาหารหลัก
- สเต๊กเนื้อริปอาย
- ผักโขมอบชีส
- สเต๊กปลาแชลมอนซอสครีมเลมอน
- เส้นเพนเน่
- ซอสครีมเห็ด
- ซีฟู๊ดผัดผงกระหรี่
- ทอดมันปลากราย
- บล๊อคโคลี่ผัดเห็ดหอม
- ไก่ย่างตะไคร้ ข้าวเหนียวมูน
- ข้าวสวย
- ข้าวผัดไข่
- ขนมปัง – เนย
ของหวาน
- ผลไม้รวม
- กล้วยบวชชี
- พานาคอตต้า
- เครปเย็น
- มาม่อนเค้ก
- เบอรี่ชีสเค้ก
- ช็อกโกแลตมูส
- เครมบรูเล่
- กาแฟ – ชา
รายละเอียดการล่องเรือ
18.30น. เช็คอินที่บริเวณเคาน์เตอร์โซนสุขสยาม ชั้นG ห้างไอคอนสยาม โดยนำ voucher ไปแลกตั๋วล่องเรือ
19.30น. เริ่มลงเรือที่ท่าเรือไอคอนสยาม ICONSIAM Pier 2
19.45น. ออกจากท่าเรือไอคอนสยามโดยเรือ “เจ้าพระยาปริ้นเซส” ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 8 สัมผัสกับบรรยากาศ ยามค่ำคืนริมสองฝั่งแม่น้ำ พร้อมบริการ Welcome Drink&Dry Snack และดื่มด่ำกับดนตรีสากลหลากหลายแนว
20.00น. ช่วงเวลาดินเนอร์ อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติแสนเลิศรส ตื่นตาตื่นใจไปกับเมนูคาวหวานพร้อมชมความงามของแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำ
21.30น. เดินทางถึงท่าเรือไอคอนสยามโดยสวัสดิภาพด้วยความประทับใจ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ริมฝั่งแม่น้ำ ขณะล่องเรือดินเนอร์ ไอคอนสยาม
โบสถ์ซางตาครู้ส
โบสถ์ซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่มีอายุราว 104 ปี อาคารวัดแห่งนี้เป็นอาคารหลังที่สามซึ่งสร้างขึ้น เพื่อทดแทนอาคารวัดหลังเดิมที่คับแคบและชำรุดทรุดโทรมมาก อาคารวัดซางตาครู้สเป็นอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิกเช่นเดียวกับอาสนวิหารอัสสัมชัญ มีจุดเด่นที่ยอดโดมแบบอิตาลีซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับโดมแห่งมหาวิหารฟลอเรนซ์หรือโดมของพระที่นั่งอนันตสมาคม
วัดกัลยาณมิตร
วัดกัลยาณมิตร เป็นวัดที่ต้นสกุลกัลยาณมิตร ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า “หมู่บ้านกุฎีจีน” สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และถวายให้กับรัชกาลที่ 3 และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก(หลวงพ่อโต) หรือที่ชาวจีนเรียกว่าซำปอกง ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง เหมือนกับวัดพนัญเชิง จ.อยุธยา
ป้อมวิไชยประสิทธิ์หรือป้อมวิไชยเยนทร์
ป้อมวิไชยประสิทธิ์เป็นป้อมปราการเก่าแก่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีสถาปัตยกรรมเป็นป้อมก่ออิฐฉาบปูน ป้อมวิไชยประสิทธิ์เดิมเป็นป้อมหอรบตั้งอยู่มุมกำแพงเมืองบางกอก (ธนบุรี) ถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพื่ออารักขาปากแม่น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าขายสำคัญ ปัจจุบันป้อมวิไชยประสิทธิ์อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือไทย ใช้เป็นที่ยิงสลุตในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และมีการติดตั้งเสาธงบริเวณทางเข้าป้อมทางทิศตะวันตกตรงกำแพงชั้นใน เพื่อชักธงราชนาวีและธงผู้บัญชาการทหารเรือ
วัดอรุณราชวราราม
วัดอรุณราชวรารามหรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันติดปากว่า วัดแจ้ง ถือกันว่าวัดแจ้งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เนื่องจากเคยเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตและพระบางได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ และยังเป็นวัดประจำรัชกาล 2 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระปรางค์องค์ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านตระการตาอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเข้าวัดมียักษ์ 2 ตนยืนเฝ้าประตูซึ่งมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับยักษ์วัดแจ้งแห่งนี้คู่กับยักษ์วัดโพธิ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
วัดระฆังโฆสิตาราม
ที่วัดแห่งนี้ได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่งในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่1) โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระแก้ว โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดระฆัง 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามเคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่1 บริเวณด้านหน้าวัดมีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่
สะพานพระราม 8
สะพานนี้เกิดจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลที่9) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและรองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ ความโดดเด่นสวยงามที่เกิดขึ้นนั้น ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบไทย และได้มีการอัญเชิญ “พระราชลัญจกร” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้สะพานพระราม 8 ปรากฏในด้านหลังของธนบัตร 20 บาท แบบ 15 ซึ่งอยู่เบื้องหลังพระบรมสาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล(รัชกาลที่ 8)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)
วัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือที่รู้จักกันในชื่อ ”วัดพระแก้ว” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย จิตกรรมฝาผนังเป็นวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ อยู่บริเวณระเบียงคดรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีจำนวนทั้งสิ้น 178 ห้อง วัดแห่งนี้เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่1)โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ในปี พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.อยุธยา
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดโพธิ์ และเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่1) อีกทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อปีพ.ศ. 2551 และวัดแห่งนี้ยังมีความโดดเด่นอยู่ที่พระพุทธไสยาสน์ เจดีย์ 4 รัชกาล และยักษ์วัดโพธิ์ที่มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับตำนานยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์อีกด้วย
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดการจองเรือได้ ที่ ล่องเรือเจัาพระยา บุฟเฟ่ต์ ดินเนอร์ กับเจ้าพระยาปริ้นเซส ที่ ICON SIAM
หากท่านสนใจ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-2949742-4 / Dtac : 090-557-7546 / Ais : 098-576-2253 Line : @greenlandtour
ขอบคุณรูปจาก wikimedia.org